สวัสดีนักอ่านที่กำลังจะซื้อกล้องใหม่ หรือหาข้อมูลเผื่อตัดสินใจในอนาคต

ยุคนี้เวลาจะซื้อกล้องสักตัว นอกจากต้องมานั่งคิดว่าซื้อกล้องแบรนด์ไหน ระบบไหน จะเอา Full Frame หรือ APS-C M4/3 หรืออะไรดี
พอเลือกได้แล้วเตรียมเงินจะซื้อ ต้องมาเจอเรื่องประกันแบบไหนดีอีก

สิ่งที่บล็อคนี้จะให้ได้คือให้คำตอบเรื่องที่ว่า กล้องที่มีประกันร้าน มันต่างจากประกันศูนย์ตรงไหนบ้าง
บล็อคสั้นๆ บล็อคนี้น่าจะช่วยให้คำตอบได้บ้างครับ 🙂

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แค่ใส่เพื่อพักสายตาเท่านั้น)

บล็อคนี้จะแบ่งสินค้าออกเป็น 3 แบบ คือ

• ประกันศูนย์
• ประกันร้าน
• ประกันแบบอื่นๆ

สินค้าประกันศูนย์

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แค่ใส่เพื่อพักสายตาเท่านั้น)

ประกันศูนย์ คืออะไร

กล้องและเลนส์ที่มีประกันศูนย์ หมายถึง ศูนย์ไทย ตัวกล้องและเลนส์จะได้รับประกันจากศูนย์ซ่อมในไทยว่า หากอุปกรณ์มีปัญหา สามารถเข้ารับบริการได้ภายใน 1 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรืออะไรก็ว่าไป
สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก่อนคือ ประกันนั้นครอบคลุมอะไรบาง(ไม่ใช่ว่าพังยังไงก็ซ่อมฟรี) โดยส่วนใหญ่คือเสียจากการใช้งานทั่วๆ ไป เช่น ม่านชัตเตอร์ค้าง สายแพที่เลนส์ขาด ยางจับลอก แฟลช Pop-up ยิงไม่ออก

อะไรประมาณนี้… ที่เราใช้งานปกติแล้วมันพังขึ้นมาเฉยๆ พังโดยไม่ใช่ความผิดเรา อันนี้ประกันศูนย์มักซ่อมให้ฟรี

ตัวอย่างเคสที่เจอกันบ่อยๆ จะเป็นเลนส์คิตของกล้อง Mirrorless Olympus ที่ชื่อ M.ZUIKO DIGITAL ED 14-42mm F3.5-5.6 EZ
คุณสมบัติหลักของเลนส์ตัวนี้คือ สายแพขาด ซึ่งอาการคือถือใช้อยู่ดีๆ ถ้ามันจะขาด มันขาดเลย!
เห็นเขาบอกว่าในเลนส์มีสายแพ 3 เส้น ขาดได้ทีละเส้น พอเกิดปัญหาปุ๊บก็เอาเข้าศูนย์ ซ่อมฟรี

เพราะการที่ใช้ๆ อยู่แล้วสายแพขาด ถือเป็นความผิดพลาดในการออกแบบ ถ้าในระยะเวลารับประกันมันพังเองได้ ศูนย์จะรับผิดชอบค่าซ่อมให้

แล้วอะไรที่ประกันศูนย์ไม่ครอบคลุมบ้าง?

ทุกอย่างที่พังโดยไม่ใช่ความผิดของผู้ผลิตครับ

ตัวอย่างเคสที่เจอบ่อยๆ อย่างผมที่ใช้กล้อง Sony ซึ่งกล้อง Mirrorless APS-C ของค่ายนี้จะมีเลนส์ Kit ที่ชื่อ Sony SEL 16-50mm F/3.5-5.6 OSS แถมมาให้ด้วย
เลนส์ตัวนี้มีโรคประจำตัวคือกลัวความสูงครับ ถ้าเราใช้อยู่ดีๆ แล้วเผลอทำหลุดมือ ภายในไม่กี่วินาทีกล้องที่ติดเลนส์ตัวนี้พุ่งลงไปโหม่งโลกแล้ว

…เลนส์ที่กลัวความสูงตัวนี้พังทันทีไม่ต้องลุ้นครับ และเท่าที่รู้มาคือเลนส์ตัวนี้เมื่อโหม่งโลกแล้วหาตัวที่รอดยากมาก แทบจะเรียกว่าพังเกือบๆ 100%
ที่อยากพูดถึงคือความเสียหายนี้ไม่อยู่ในประกันนะ ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมเองครับ

เพราะทางศูนย์ถือว่า เลนส์มันพังเพราะผู้ใช้เอาไปโหม่งโลกเอง ซึ่งไม่ตรงกับการใช้งานกล้องตามปกติ (แหงล่ะ เขาไม่ได้ผลิตกล้องให้ไปโหม่งโลกเล่น)

ประกันศูนย์ทำไมต้องมีระยะเวลา และเคลมได้เฉพาะบางเงื่อนไขที่เสีย

จริงๆ แล้วการที่สินค้ามีการรับประกัน ไม่ได้ทำเพื่อให้ลูกค้าใช้ของได้อย่างสบายใจ ถ้าพังใน 1 ปีก็ไม่ต้องเสียค่าซ่อม
แต่มีเพื่อที่โรงงานจะบอกลูกค้าได้ว่า สินค้าเราใช้ได้อย่างปกติอย่างน้อยๆ ก็ 1 ปีนะ คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานแน่นอน
และหากมันเสียจากการใช้งานทั่วๆ ไปในระยะเวลารับประกันนี้ เราซ่อมฟรี เพราะถือว่าเราปล่อยของไม่ดีออกมาเอง

นี่คือเหตุผลที่ประกันครอบคลุมแค่บางการใช้งาน ประกันแค่สิ่งที่น่าจะเสียหายเพราะสินค้าทำงานได้ไม่ดีเอง

แต่ถ้าพังเพราะทำหล่น กระแทก พังเพราะใช้งานไม่ถูกวิธี หรือโดนขโมย ตรงนี้เป็นการสูญเสียที่ไม่เกี่ยวกับโรงงานผลิต ก็เลยไม่ครอบคลุมการรับประกัน

สินค้าประกันร้าน

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แค่ใส่เพื่อพักสายตาเท่านั้น)

สินค้าประกันร้าน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีประกันนะ แต่จะเป็นประกันของต่างประเทศที่ร้านหิ้วสินค้าชิ้นนั้นๆ เข้ามา
อย่างเช่น กล้องรุ่นหนึ่งที่หิ้วมาจากญี่ปุ่น ก็จะเป็ประกันของศูนย์ญี่ปุ่น
พอซื้อมาแล้วก็เข้าศูนย์ญี่ปุ่นได้ตามปกติ แต่เข้าศูนย์ไทยแล้วไม่เกี่ยวกับการรับประกันของทางญี่ปุ่น

พอมาอยู่ในไทย มันใช้ประกันของไทยไม่ได้(เพราะเป็นประกันศูนย์ญี่ปุ่น) ถ้าเอากล้องเข้าศูนย์ไทยจะมีสถานะเหมือนกับกล้องที่หมดประกันแล้ว คือจ่ายค่าซ่อมเองทุกกรณี

พวกร้านรับหิ้วก็เลยมีระบบประกันร้านขึ้นมา

ประกันร้านจริงๆ ก็มีหลายแบบ เท่าที่ผมรู้จะมีตามนี้

• เสียมาส่งร้าน ร้านจัดการซ่อมเอง
• ส่งศูนย์ไทยซ่อม และทางร้านจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้
• ส่งกลับศูนย์ที่เป็นเจ้าของสินค้า เช่น ของหิ้วจากญี่ปุ่น ก็ส่งซ่อมศูนย์ญี่ปุ่น

ทีนี้ร้านไหนจะเคลมให้แบบไหน ช้าเร็วขนาดไหน ค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน ลองไปหาข้อมูลเองนะ ผมไม่รู้~~

นอกจากประกันศูนย์ กับ ประกันร้าน มีแบบอื่นรึเปล่า?

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แค่ใส่เพื่อพักสายตาเท่านั้น)

มีสิ…(คนอ่านชักจะเริ่มสับสันหนักขึ้นเรื่อยๆ)

ช่วงหลังๆ บ้านเราเริ่มมีคนหิ้วกล้องที่เรียกว่าประกัน Tourist Warranty ขึ้นมา
โดยกล้องประกัน Tourist Warranty คือกล้องจากต่างประเทศ ที่เขียนระบุว่าสามารถใช้สิทธิเคลมในประเทศอื่นได้ ตัวอย่างคือกล้อง Sony ที่ซื้อจากศูนย์มาเลเซีย
โดยความแตกต่างของ Tourist Warranty กับศูนย์ไทยก็คือ

• ไม่ใช่ศูนย์ไทย แค่เข้าเคลมกับศูนย์ไทยได้
• สอบถามประกันกับศูนย์ไทยไม่ได้ ไม่มีข้อมูลในระบบ
• เวลาจะเคลม ต้องถือใบ Tourist Warranty เข้าเคลมด้วย (และแนะนำให้เก็บใบเสร็จหรือ Invoice จากคนขายไว้ด้วยเพื่อความมั่นใจ)

ของหิ้วประเภท Tourist Warranty จะดูดีกว่าของหิ้วธรรมดาๆ หน่อยตรงที่ได้ประกันเทียบเท่าของศูนย์ไทยในราคาที่ถูกกว่า

มีอะไรอีกมั้ย… มีอีกแบบ

กล้องแบบสุดท้ายเขาเรียกว่าประกัน Worldwide ซึ่งจริงๆ มันก็คือกล้องประกันศูนย์ธรรมดาๆ
แต่ประกัน Worldwide หมายถึงการรับประกันที่ครอบคลุมหลายประเทศในโลก

ซื้อประเทศนี้ แต่ซ่อมได้หลายประเทศ อันนี้จะเหมาะกับคนชอบเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ
แต่ถ้าจะหิ้วไปมา ต้องเช็คดีๆ ก่อนว่า Worldwide ของค่ายนั้นๆ เคลมได้ที่ประเทศอะไรบ้าง

Q & A

Q : กล้องประกันศูนย์ หรือ ประกันร้าน ควรเลือกแบบไหน?
A : ประกันร้านถูกกว่า แต่ประกันศูนย์อุ่นใจกว่าในปีแรก เอาเป็นว่าเลือกตามงบดีกว่า

Q : กล้องประกันศูนย์ หากหมดประกันแล้วมีอะไรที่ดีกว่าประกันร้านบ้าง?
A : ตรงนี้แล้วแต่ค่าย อย่าง Canon ที่มีส่วนลดให้กล้องหมดประกันศูนย์ ในขณะที่ประกันร้านต้องเสียเงินเต็มจำนวน แต่บางค่ายพอกล้องหมดประกันจะเป็นของศูนย์หรือของหิ้วก็เสียค่าซ่อมเท่ากันก็มี

Q : กล้อง Worldwide ซื้อต่างประเทศ ซ่อมในไทยได้หรือไม่?
A : ลองเช็คเองครับ กล้องแต่ละค่าย และแต่ละประเทศมีประกัน Worldwide ที่ครอบคลุมไม่เหมือนกัน

Q : ถ้ากล้อง Tourist Warranty มือหนึ่ง ราคาพอๆ กับประกันศูนย์ไทยมือสอง เลือกอะไรดี?
A : ส่วนตัวผมเองเลือก Tourist Warranty ครับ เพราะได้ของมือหนึ่งซึ่งมีความเสี่ยงจากการใช้งานน้อยกว่า(เพราะเป็นของใหม่) แต่หากใช้บางค่ายที่กล้องประกันศูนย์มีส่วนลดค่าซ่อมหลังหมดประกัน…ต้องลองชั่งใจอีกที

Q : กล้องประกันร้าน ซื้อมาใช้เสี่ยงมากรึเปล่า?
A : เสี่ยงมากกว่าประกันศูนย์แน่นอน ยิ่งถ้าแจ็คพอตแตกตอนที่ใช้ได้ไม่กี่เดือนละก็…คงมีเสียดายที่ไม่ได้ซื้อของประกันศูนย์กันบ้าง แต่ถ้าใช้ครบปีแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าได้ของถูกกว่านะ (เพราะส่วนใหญ่ของประกันศูนย์ เมื่อหมดประกันจะทำอะไรก็เสียเงินเหมือนกัน)

Q : แล้วเลนส์รับประกันเหมือนกล้องหรือไม่?
A : เท่าที่ผมรู้ เหมือนกันทุกประการครับ

จบแล้วครับกับเรื่องของประกันศูนย์ หรือ ประกันร้าน
หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะครับ 🙂